เผยอาการ 3 คน จาก 13ชีวิต ถ้ำหลวง อิดโรยมาก เทียบภาพก่อนหลัง เพื่อนห่วงโทษตัวเอง ไม่กล้าสู้หน้าใคร
โดย เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam โพสต์ หน่วยซีล เผยว่า โค้ชเอก กับ น้องอีก 2 คนอิดโรยมากแม้ให้กิน พาวเวอร์เจลและน้ำ แต่ไม่ขอระบุว่า น้องอีก 2 คน เป็นน้องคนไหน ขณะที่หลายคนบอกว่า อยากกินข้าว โดยมีหมอภาคย์ที่จบซีล คอยดูแลตลอด
(ชาวเน็ตแห่เต็มเฟซบุ๊ก โค้ชเอก 13ชีวิต ทำไลฟ์สด เกือบทะลุล้าน ไม่ต้องโทษตัวเอง(คลิป))
เมื่อเทียบภาพก่อนและหลังทั้ง #13คนรอดแล้ว จาก #ถ้ำหลวง แต่สภาพแต่ละคน ซูบผอมไปจนผิดรูป กับการอดอาหารกว่า 10 วัน และอยู่อย่างลำบากในถ้ำ
ขณะที่ นายนพดล กันทะวงศ์ หรือ ดล น้องชายโค้ชนพ เพื่อนสนิทของโค้ชเอก เปิดเผยว่า หลังเห็นคลิปโค้ชเอกและเด็ก ๆ ทั้ง 12 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำ รู้สึกตกใจมาก ดูแปลกตาไปเยอะ เพราะอดอาหารไปหลายวัน จากเดิมที่เคยเห็นเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ตอนนี้เท่าที่เห็น บางคนผอมจนเห็นกระดูก ตนรู้สึกสงสาร ตอนแรกก็กังวลว่าหลังจากทุกคนออกมาจากถ้ำได้แล้ว โค้ชเอกจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนพาเด็กๆ เข้าไปติดอยู่ในถ้ำ และกลัวว่าตัวโค้ชเอกเองจะคิดแบบนั้นด้วย แต่เมื่อเห็นกำลังใจจากคนไทยทั้งประเทศที่ส่งมาให้โค้ช น่าจะรู้สึกดีขึ้นในระดับหนึ่ง และไม่กลัวว่าโค้ชเอกจะคิดโทษตัวเองจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า เพราะทุกคนคอยให้กำลังใจและพร้อมที่จะให้โอกาส ไม่ซ้ำเติมโค้ชเอกอยู่แล้ว
(ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เผยภาพ โค้ชเอก เคยพบ ครูบาบุญชุ่ม ในพิธีสำคัญที่รัฐฉาน)
โดยตามปกติแล้ว โค้ชเอกเป็นคนร่าเริง ชอบช่วยเหลือคน รักเด็ก เสียสละ ให้กำลังใจกับเด็ก ๆ ส่วนตัวรู้จักกับโค้ชเอกมาตั้งแต่โค้ชเอกสึกจากสามเณรใหม่ ๆ และมาขี่จักรยานตามทริปด้วยกัน โค้ชเอกจะคอยดูแลทุกคนในทีม เสียสละแบกเสบียงอาหาร แบกน้ำให้ ไม่เคยทิ้งเพื่อน จึงมีแต่คนรัก แต่มาสนิทกันในช่วง 5 ปีก่อนหน้านี้ ที่เริ่มมาเป็นโค้ชฟุตบอล

ด้าน นายจ้อย คำผาย หรือ บอล รุ่นพี่โค้ชเอก เผยว่า โค้ชเอกเป็นคนนิสัยดี รักเด็ก มีน้ำใจช่วยเหลือเด็กในทีมฟุตบอล ทำให้ค่อนข้างสนิทกับเด็กเหล่านี้ ผู้ปกครองในทีมหมูป่า ก็ค่อนข้างรักและไว้ใจโค้ชเอก เพราะโค้ชตั้งใจและเต็มใจสอนเด็กอย่างเต็มที่ ตนเชื่อว่าโค้ชเอก เป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ชีวิตค่อนข้างสูง
ส่วนกรณีดราม่าเรื่องโค้ชเอก ตนคิดว่าสังคมโซเชียลชอบเรื่องดราม่า ทั้งที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ ไม่ได้รู้จักกับโค้ชเอกจริง ๆ ก็ไปวิจารณ์แบบนั้น ตนคิดว่าคนที่รู้จักและไม่รู้จักก็ต่างก็ให้กำลังใจ บางคนบอกว่า โค้ชเอกไม่มีญาติมารอหน้าถ้ำ ตนอยากชี้แจงว่าไม่ใช่ความจริง โค้ชเอกก็ยังมีป้า มีเด็กลูกศิษย์วัด และมีตนคอยให้กำลังใจ หากไม่มีใครไปรอรับ ตนเองก็จะไปรอรับหน้าถ้ำด้วยตนเอง
ทั้งนี้ ตนคิดว่าตอนนี้โค้ชเอกคงจิตตกพอสมควร เพราะเท่าที่ตนดูจากในคลิปของหน่วยซีล สังเกตเห็นว่าโค้ชเอกไม่ยอมพูดอะไรหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ โค้ชเอกอาจคิดว่าตัวเองมีความผิดที่พาเด็กๆ เข้าไป แต่ตนอยากให้กำลังใจว่า ทั่วโลกและทั่วประเทศยังให้กำลังใจอยู่ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้มีช่องทางติดต่อสื่อสารกันได้โดยเร็ว อยากให้โค้ชเอกได้ระบายความรู้สึก หรือพูดคุยกับญาติพี่น้องคนสนิทบ้าง ตนอยากบอกว่าทุกคนไม่ได้โกรธเคืองอะไร ขอให้โค้ชกลับออกมาแล้วสอนเด็กได้เหมือนเดิม เพราะเหตุการณ์นี้ ไม่มีใครอยากให้เกิด มันเป็นอุบัติเหตุทางธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวคิดว่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์โค้ชเอก เขาคงไม่รู้ก็เลยพูด แทนที่จะมองว่าคนไทยส่งกำลังใจไปที่ถ้ำหลวงกัน ตนอยากให้มองที่ด้านบวกมากกว่าด้านลบ ยอมรับว่าหากโค้ชเอกออกมาจากถ้ำแล้ว ก็คงมีความวิตกกังวล ไม่กล้าที่จะสู้หน้าใคร เพราะกลัวถูกต่อว่าจากสังคมหรือผู้ปกครอง อีกทั้ง คงวิตกว่าหากออกจากถ้ำมาแล้ว ผู้ปกครองไม่ให้เด็กมาเตะฟุตบอลกับโค้ชอีก โค้ชก็อาจจะอยากอยู่คนเดียว ส่วนตัวอยากให้กำลังใจโค้ชเอกให้เข้มแข็งไว้ เพราะไม่มีใครโทษโค้ชเอก




(แห่ส่องพระดัง ห้อยติดกาย โค้ชเอก ตลอดเวลาใน ถ้ำหลวง รู้มูลค่าแล้วถึงกับร้องโอโห้!!)

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น